Skip to content
รอบรั้ว NEC
รอบรั้ว NEC

แบ่งปันความรู้เกี่ยวกับระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ

  • Home
  • ยุทธศาสตร์ NEC
    • แนวคิดและทฤษฎีการสร้างยุทธศาสตร์
    • มหายุทธศาสตร์สู่ระเบียงเศรษฐกิจ
  • เกษตรกับ NEC
  • การวิจัยกับ NEC
  • ท่องเที่ยว NEC
  • คติชนกับ NEC
  • คอลิมนิสต์
รอบรั้ว NEC

แบ่งปันความรู้เกี่ยวกับระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ

4E-Model กลยุทธ์การพัฒนาชุมชนท่องเที่ยว

ดร.อารีย์ บินประทาน, February 25, 2024July 28, 2024
Post Views: 231

กลยุทธ์การยกระดับชุมชนท่องเที่ยว

               ในการพัฒนาชุมชนใดชุมชนหนึ่งขึ้นเป็นชุมชนท่องเที่ยว ควรมีเครื่องมือที่เหมาะสมและครอบคลุมทุกมิติ ในบทความนี้จะนำเสนอ กลยุทธ์ 4 ขั้นตอน จากรูปแบบการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยว 4Es Model (อารีย์, 2559) ซึ่งประกอบด้วย 1) การศึกษาสภาพปัจจุบัน ศักยภาพเบื้องต้น และความต้องการจำเป็นของชุมชน (Explore) 2) การเสริมองค์ความรู้และพัฒนาองค์ประกอบด้านการท่องเที่ยว (Educate) 3) การประเมินผลหรือการทดลองกิจกรรมและเส้นทางการท่องเที่ยว (Evaluate) และ 4) การนำเสนอชุมชนและการสร้างการรับรู้ให้กับชุมชนผ่านช่องทางด้านการตลาดต่าง ๆ (Exhibit) รายละเอียดดังนี้

1) Explore ขั้นตอนการสืบค้น

การศึกษาสภาพปัจจุบัน ศักยภาพเบื้องต้น และความต้องการจำเป็นของชุมชนตามองค์ประกอบด้านการท่องเที่ยวเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดในการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยว ในการดำเนินการนี้ จำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกันระหว่างสมาชิกในชุมชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นประโยชน์ในการวางแผนการพัฒนาต่อไป ขั้นตอนการ Explore มีรายละเอียดดังนี้

1.1)  การประชุมกลุ่มย่อยผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Focus Group)

การประชุมกลุ่มย่อยเป็นวิธีที่ดีในการรวบรวมความคิดเห็นและข้อมูลจากกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มสมาชิกในชุมชน จะทำให้เข้าใจถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน ตัวแทนจากบริษัทท่องเที่ยว จะทำให้ได้มุมมองและความต้องการจากภาคธุรกิจท่องเที่ยว และตัวแทนจากนักท่องเที่ยว เพื่อให้เข้าใจถึงความคาดหวังและประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวต้องการ

1.2) การสำรวจสภาพแวดล้อมทางกายภาพและทรัพยากรธรรมชาติ

การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่ เช่น แหล่งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ที่พัก ร้านอาหาร และสถานที่สำคัญอื่น ๆ และการเข้าถึงหรือระบบขนส่งและการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในชุมชน

1.3) การวิเคราะห์ศักยภาพด้านการบริการ

การวิเคราะห์ในขั้นตอนนี้เน้นการสำรวจคุณภาพของบริการท่องเที่ยวและการบริการของผู้ประกอบการในพื้นที่ เช่น ไกด์ท้องถิ่น ร้านอาหาร ที่พัก รวมถึงความพร้อมของบุคลากรด้านความรู้และทักษะในการให้บริการนักท่องเที่ยว

1.4) การทำความเข้าใจในปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว

ในขั้นตอนนี้จะเป็นการประเมินปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว เช่น สภาพเศรษฐกิจ รายได้ การทำงานของคนในชุมชน สังคมและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวิถีชีวิตของคนในชุมชน สิ่งแวดล้อม ความสมบูรณ์ และความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ

1.5) การวิเคราะห์โอกาสและข้อจำกัดของชุมชน

การวิเคราะห์ในขั้นตอนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาโอกาส ที่ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว รวมถึงการระบุข้อจำกัด ปัญหาหรืออุปสรรคที่ต้องแก้ไขก่อนการพัฒนา

1.6) การทำแผนที่ชุมชน (Community Mapping)

การทำแผนที่ชุมชนเป็นวิธีที่ช่วยให้เข้าใจถึงทรัพยากรและศักยภาพของชุมชนในเชิงพื้นที่ โดยจะมีการระบุสถานที่สำคัญ แหล่งท่องเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

1.7) การจัดทำรายงานการศึกษาสภาพปัจจุบันและศักยภาพเบื้องต้น

การจัดทำรายงานเพื่อสรุปข้อมูลที่ได้รับจากการสำรวจและวิเคราะห์ จะช่วยให้สามารถนำไปใช้ในการวางแผนและตัดสินใจในการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวต่อไป

2) Educate ขั้นตอนการเสริมฐานความรู้

การเสริมองค์ความรู้ที่ชุมชนหรือพื้นที่อาจจะยังขาดและมีความต้องการพัฒนา เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญในการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ขั้นตอนการ Educate มีรายละเอียดดังนี้

2.1) การพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว

การพัฒนาบุคลากรเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มคุณภาพในการให้บริการและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว โดยเน้นการฝึกอบรมและการศึกษา จัดการฝึกอบรมในด้านต่าง ๆ เช่น การบริการลูกค้า การนำเที่ยว ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในท้องถิ่น รวมถึงการเสริมทักษะด้านภาษา การสื่อสาร การจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน และการทำงานเป็นทีม

2.2) การสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว

การสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวจะช่วยให้ชุมชนมีสิ่งที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เช่น งานฝีมือ อาหารท้องถิ่น และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร การพัฒนาบรรจุภัณฑ์: ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่น่าสนใจและสื่อถึงความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน รวมถึง การสร้างเรื่องราวหรือเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและความมีคุณค่า

2.3) การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีจะช่วยให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่นและน่าสนใจ โดยเน้นการปรับปรุงและพัฒนาที่พัก เพิ่มคุณภาพของที่พักในชุมชน เช่น โฮมสเตย์ รีสอร์ทขนาดเล็ก และการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น ร้านอาหาร สถานที่พักผ่อน และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวก

2.4) การประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ให้กับชุมชน

การประชาสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยให้ชุมชนมีการรับรู้และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมมากขึ้น โดยเน้นการใช้สื่อออนไลน์ การสร้างเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และการใช้โซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การจัดงานแสดงสินค้า การจัดนิทรรศการ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วม การสร้างความสัมพันธ์กับสื่อมวลชน การจัดงานแถลงข่าว การเชิญสื่อมวลชนมาเยี่ยมชมชุมชน และการส่งข่าวสารให้กับสื่อมวลชน

2.5) การสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชน

การสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งจะช่วยให้ชุมชนสามารถพัฒนาและขยายโอกาสทางการท่องเที่ยวได้มากขึ้น โดยเน้น

เชื่อมโยงกับชุมชนอื่น ๆ การสร้างความร่วมมือกับชุมชนใกล้เคียงและชุมชนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน การร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน การทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และภาคธุรกิจ การเข้าร่วมเครือข่ายการท่องเที่ยว การเข้าร่วมสมาคมหรือเครือข่ายการท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างโอกาสใหม่ ๆ

3) Evaluate ขั้นตอนการประเมินผลหรือทดสอบการท่องเที่ยว

การประเมินผลหรือการทดลองกิจกรรมและเส้นทางการท่องเที่ยวเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยว หลังจากที่กิจกรรมการท่องเที่ยวในชุมชนได้ถูกวางแผนและจัดการแล้ว การประเมินผลจะช่วยให้ทราบถึงประสิทธิภาพ ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว และข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น ขั้นตอนการ Evaluate มีรายละเอียดดังนี้

3.1) การเชิญผู้ทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยว

การใช้เครือข่ายที่สร้างขึ้นเพื่อเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาตรวจสอบและประเมินเส้นทางการท่องเที่ยว ซึ่งอาจประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ เช่น องค์กรท้องถิ่น หน่วยงานด้านการท่องเที่ยว ภาคเอกชน เช่น บริษัททัวร์ ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นเป้าหมายของชุมชน

3.2) การจัดทำเครื่องมือประเมิน

การจัดทำเครื่องมือประเมินที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสม เพื่อรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นจากผู้ทดสอบ ซึ่งอาจประกอบด้วย การออกแบบแบบสอบถามที่ครอบคลุมทุกด้านของประสบการณ์ท่องเที่ยว เช่น ความสะดวกสบายในการเดินทาง ความพึงพอใจในบริการ ความน่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยว การสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ทดสอบเพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ และการสังเกตการณ์การท่องเที่ยวในสถานที่จริงเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการและการจัดการ

3.3) การประเมินผลการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยว

การรวบรวมข้อมูลจากการประเมินผลและวิเคราะห์เพื่อหาข้อบกพร่องและข้อจำกัดที่เกิดขึ้น โดยเน้นการวิเคราะห์ข้อมูล การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ และการสังเกต การสรุปผลการประเมินในด้านต่าง ๆ เช่น ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว คุณภาพของบริการ ความน่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยว

3.4) การปรับปรุงและพัฒนาตามผลการประเมิน

การนำผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการท่องเที่ยวในชุมชน โดยเน้นการระบุและแก้ไขปัญหาหรือข้อบกพร่องที่พบในการประเมิน การปรับปรุงคุณภาพของบริการ การพัฒนาบุคลากร และการเสริมสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก การปรับปรุงเส้นทางการท่องเที่ยวและกิจกรรมให้มีความน่าสนใจและตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

3.5) การติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง

การติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืน โดยเน้น

 การประเมินผลการท่องเที่ยวในชุมชนเป็นระยะ ๆ เพื่อให้ทราบถึงความก้าวหน้าและปัญหาที่เกิดขึ้น การนำผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

4. Exhibit ขั้นตอนการนำเสนอชุมชน

หลังจากที่การประเมินผลหรือการทดลองกิจกรรมและเส้นทางการท่องเที่ยวได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลและนำผลการศึกษาไปปรับปรุงแก้ไข การบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยวแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการดำเนินการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับชุมชนทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วยประชาสัมพันธ์ รายละเอียดการดำเนินการ Exhibit มีดังนี้

4.1) การสร้างเว็บไซต์

เว็บไซต์เป็นช่องทางสำคัญในการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับชุมชนท่องเที่ยว โดยเน้นการออกแบบเว็บไซต์ที่น่าสนใจ ใช้งานง่าย และมีข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับชุมชน เช่น สถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม ข้อมูลที่พัก และร้านอาหาร มีการอัปเดตข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมท่องเที่ยว โปรโมชั่น และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ เช่น บทความ รูปภาพ วิดีโอ ที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน

4.2) การใช้โซเชียลมีเดีย

โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างการรับรู้และเชื่อมต่อกับนักท่องเที่ยว โดยเน้นการสร้างโปรไฟล์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และยูทูบ การโพสต์เนื้อหาที่น่าสนใจและมีความหลากหลาย เช่น รูปภาพ วิดีโอ บทความ และข่าวสารเกี่ยวกับชุมชน รวมถึงการตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติดตาม

4.3) การจัดงานแสดงสินค้าท้องถิ่น

การจัดงานแสดงสินค้าท้องถิ่นเป็นโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์และแสดงสินค้าและบริการท้องถิ่น โดยเน้นการการจัดบูธเพื่อแสดงสินค้าและบริการท้องถิ่น เช่น งานฝีมือ อาหารท้องถิ่น และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น การจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การแสดงศิลปวัฒนธรรม การประกวด การสาธิตการทำอาหารท้องถิ่น การเชิญสื่อมวลชน บล็อกเกอร์ และผู้เครือข่ายมาเยี่ยมชมและประชาสัมพันธ์งาน

4.4) การจัดทำแผ่นพับประชาสัมพันธ์

แผ่นพับประชาสัมพันธ์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนท่องเที่ยว โดยเน้นการออกแบบแผ่นพับที่น่าสนใจและมีข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับชุมชน เช่น แผนที่เส้นทางการท่องเที่ยว รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม ข้อมูลที่พัก และร้านอาหาร การแจกจ่ายแผ่นพับในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และงานแสดงสินค้าท่องเที่ยว และการแทรกแผ่นพับในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

4.5) การประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน / เครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว

การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประชาสัมพันธ์และขยายเครือข่ายการท่องเที่ยว โดยเน้นการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว การร่วมมือในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น การจัดงานเทศกาล การจัดทัวร์พิเศษ และกิจกรรมการกุศล การขอรับการสนับสนุนด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของหน่วยงาน การเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว

สรุป

สิ่งสำคัญในการพัฒนาพื้นที่หรือชุมชนท่องเที่ยว คือ ประสบการณ์ของผู้ดำเนินการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมถึงการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ในการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความยืนยาวของพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างบุคลากรด้านการท่องเที่ยวรุ่นใหม่ในพื้นที่ในการต่อยอดสิ่งที่เกิดขึ้น และสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการปรับตัวให้ทันต่อแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงด้านการท่องเที่ยวในอนาคตต่อไป

อ้างอิงบทความนี้

อารีย์ บินประทาน. (2567). 4E-Model กลยุทธ์การพัฒนาชุมชนท่องเที่ยว. รอบรั้ว NEC. (ออนไลน์). URL: https://kmnec.crurds.com/archives/116

ท่องเที่ยว NEC

Post navigation

Previous post
Next post
©2025 รอบรั้ว NEC | WordPress Theme by SuperbThemes